วันอาทิตย์ที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2558

เฉลยแนวข้อสอบครูผู้ช่วย ชุด พรบ.สภาครูและบุคลากรทางการศึกษา

เฉลยแนวข้อสอบครูผู้ช่วย ชุด พรบ.สภาครูและบุคลากรทางการศึกษา

http://www.thaitestonline.com

#####เฉลยของข้อสอบคือข้อที่เป็นตัวหนา#####
1. บุคคลต่อไปนี้หากยื่นขอใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ จะต้องผ่านการทดสอบและประเมินความรู้ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่คุรุสภากำหนด 
ก. ผู้ที่เคยบกพร่องในศิลธรรมอันดีมาก่อน
ข. ผู้ที่ไร้ความสามารถหรือเสมือนไร้ความสามารถ
ค. ผู้ที่เป็นชาวต่างประเทศ
ง. ถูกทุกข้อ
2. พิจารณาพักใช้ใบประกอบวิชาชีพครู 
ก. คุรุสภา
ข. สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา
ค. คณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ
ง. สำนักงานเลขาธิการคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ
3. ใครเป็นผู้ลงนามใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู 
ก. นายกรัฐมนตรี
ข. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
ค. ประธานคุรุสภา
ง. เลขาธิการคุรุสภา
4. ใครคือผู้ดูแลทะเบียนผู้ได้รับใบประกอบวิชาชีพ 
ก. คุรุสภา
ข. สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา
ค. เลขาธิการคุรุสภา
ง. คณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ
5. ใครไม่จำเป็นต้องมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ 
ก. รองผู้อำนวยการสถานศึกษา
ข. ครูอัตราจ้างรายเดือนในสถานศึกษา
ค. บุคลากรการศึกษาอื่นในสำนักงานเขตฯ
ง. ศึกษานิเทศก์
6. กรณีที่ร้องขอเพื่อต่ออายุใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ ผู้มีอำนาจไม่อนุญาตสามารถร้องทุกข์ต่อคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพภายในกี่วันนับตั้งแต่วันที่ได้รับแจ้ง 
ก. 15 วัน
ข. 30 วัน
ค. 45 วัน
ง. 90 วัน
7. ข้าราชการสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษารายใดต่อไปนี้ หากไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ จะไม่เข้าข่ายผิดกฎหมาย 
ก. เจ้าหน้าที่บริหารการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ข. ศึกษานิเทศก์
ค. บุคลากรทางการศึกษาอื่น
ง. ข้าราชการทุกคนควรมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ
8. ข้อใดต่อไปนี้เป็นวิชาชีพควบคุม 
ก. วิชาชีพครู
ข. วิชาชีพผู้บริหารสถานศึกษา
ค. วิชาชีพผู้บริหารการศึกษา
ง. ถูกทุกข้อ
9. ข้อใดไม่ใช่วัตถุประสงค์ของคุรุสภา 
ก. ออกใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ
ข. กำหนดนโยบายแผนพัฒนามาตรฐานวิชาชีพ
ค. วิจัยเกี่ยวกับการประกอบวิชาชีพ
ง. ออกข้อบังคับคุรุสภา
10. หน่วยงานที่รับผิดชอบเกี่ยวกับการควบคุมและรักษามาตรฐานวิชาชีพครูและบุคลากรทางการศึกษา 
ก. คุรุสภา
ข. สก.สค.
ค. สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา
ง. สำนักงานเลขาธิกา สก.สค.
11. คณะกรรมการที่ประธานกรรมการโดยตำแหน่ง 
ก. คุรุสภา
ข. คณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ
ค. คณะกรรมการ สก.สค.
ง. เฉพาะข้อ ข และ ค
12. ขาดคุณสมบัติไม่สามารถขอขึ้นทะเบียนใบประกอบวิชาชีพครูได้ 
ก. มีอายุย่างเข้าปีที่ยี่สิบ
ข. มีวุฒิปริญญาตรีนิติศาสตร์
ค. เคยถูกจำคุก 2 ปีฐานทารุณกรรมเด็ก
ง. ถูกทุกข้อ
13. ใครเป็นกรรมการและเลขานุการคุรุสภา 
ก. ศ.เสริมศักดิ์ วิสาลาภรณ์
ข. ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
ค. เลขาธิการคุรุสภา
ง. ไม่มีข้อถูก
14. คณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพมีจำนวนกี่คน 
ก. 39 คน
ข. 32 คน
ค. 26 คน
ง. 17 คน
15. ใครบ้างต่อไปนี้มีสิทธิ์ยื่นคำขอใบอนุญาตประกอบวิชาชีพได้ 
ก. ผู้ที่เป็นครูและเป็นสมาชิกคุรุสภา
ข. ผู้บริหารสถานศึกษา
ค. ผู้ที่เพิ่งจบการศึกษาด้านครุศาสตร์
ง. ถูกทุกข้อ
16. มีหน้าที่ส่งเสริมสวัสดิการ สวัสดิภาพ และส่งเสริมสนับสนุนการจัดการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ 
ก. คุรุสภา
ข. สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา
ค. คณะกรรมการ สก.สค.
ง. สำนักงานคณะกรรมการ สก.สค.
17. ใครไม่ได้เป็นกรรมการในคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ 
ก. ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
ข. เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ค. เลขาธิการ ก.ค.ศ
ง. เลขาธิการคุรุสภา
18. อายุของใบอนุญาตประกอบวิชาชีพการศึกษา 
ก. ชั่วคราว 3 ปี
ข. ชั่วคราว 5 ปี
ค. 5 ปี
ง. ตลอดชีพ
19. ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพจะสิ้นสุดลงกรณีใด 
ก. ใบอนุญาตนั้นหมดอายุ
ข. ถูกสั่งเพิกถอน
ค. ถูกสั่งพักใช้
ง. ถูกทุกข้อ
20. คุรุสภามีฐานะตามข้อใด 
ก. เป็นองค์กรวิชาชีพครู
ข. เป็นนิติบุคคล
ค. เป็นองค์กรในกำกับของ ก.ศธ.
ง. ถูกทุกข้อ
21. ผู้บริหารรู้อยู่แก่ใจว่ารับครูอัตราจ้างที่ไม่มีใบประกอบวิชาชีพมาสอนจะมีความผิดตามข้อใด 
ก. ถูกพักใช้หรือเพิกถอนใบประกอบวิชาชีพ
ข. ถูกจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท
ค. ถูกจำคุกไม่เกิน 3 ปี
ง. ไม่มีความผิดเพราะครูอัตราจ้างไม่มีข้อห้าม
22. จรรยาบรรณต่อผู้รับบริการจัดอยู่ในมาตรฐานวิชาชีพข้อใด 
ก. มาตรฐานความรู้และประสบการณ์
ข. มาตรฐานการปฏิบัติงาน
ค. มาตรฐานการปฏิบัติตน
ง. ทุกมาตรฐานข้างต้น
23. ผู้ที่มีสิทธิ์ขอใบอนุญาตประกอบวิชาชีพต้องมีอายุกี่ปีเป็นอย่างน้อย 
ก. 18 ปีบริบูรณ์
ข. 20 ปี
ค. 20 ปีบริบูรณ์
ง. ไม่จำกัดอายุ
24. ข้อใดคือองค์กรเกี่ยวกับวิชาชีพครู 
ก. คุรุสภา
ข. ก.ค.ศ
ค. อ.ก.ค.ศ.
ง. ถูกทุกข้อ
25. ผู้มีอำนาจในการพิจารณาว่าข้าราชการครูผู้ใดจะถูกพักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ 
ก. ประธานคุรุสภา
ข. เลขาธิการคุรุสภา
ค. คณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ
ง. คณะกรรมการคุรุสภา
26. สำนักงานส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา(สก.สค.) เป็นหน่วยงานที่อยู่ภายใต้การบริหารงานของ 
ก. คุรุสภา
ข. รัฐมนตรี
ค. กระทรวงศึกษาธิการ
ง. คณะกรรมการ สก.สค.
27. หากถูกเพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพแล้วต้องพ้นกำหนดกี่ปีนับแต่วันเพิกถอนจึงจะมีสิทธ์ขอใบอนุญาตประกอบวิชาชีพได้ 
ก. ไม่ได้กำหนด
ข. 1 ปีเป็นอย่างน้อย
ค. 3 ปีเป็นอย่างน้อย
ง. 5 ปี
28. ประเภทของใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ 
ก. ประเภทเดียว
ข. 2 ประเภท
ค. 3 ประเภท
ง. 4 ประเภท
29. หากถูกลงโทษเพราะประพฤติผิดมาตรฐานวิชาชีพ 
ก. ถูกพักใช้ใบประกอบวิชาชีพ
ข. ถูกเพิกถอนใบประกอบวิชาชีพ
ค. ไม่สามารถสอนนักเรียนได้
ง. ถูกออกจากระบบราชการ
30. ใครคือประธานคุรุสภา 
ก. นายกรัฐมนตรี
ข. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
ค. ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
ง. ผู้ทรงคุณวุฒิ

http://www.thaitestonline.com


แนวข้อสอบครูผู้ช่วย,พรบ.,สภาครู,บุคลากรทางการศึกษา,ครูผู้ช่วย 2558,ครูผู้ช่วย กทม,ครูผู้ช่วย 58,ดาวน์โหลด แนว ข้อสอบ ครู ผู้ ช่วย พร้อม เฉลย,ทํา ข้อสอบ ครู ผู้ ช่วย,ครูผู้ช่วย ปี 2558,ครูผู้ช่วย ปี 58,ข้อสอบ บรรจุ ครู ผู้ ช่วย พร้อม เฉลย,แนว ข้อสอบ ครู ผู้ ช่วย พร้อม เฉลย

เฉลยรวมแนวข้อสอบบรรจุครูผู้ช่วย ชุด พรบ.การศึกษาแห่งชาติ

เฉลยรวมแนวข้อสอบบรรจุครูผู้ช่วย ชุด พรบ.การศึกษาแห่งชาติ

http://www.thaitestonline.com

#####เฉลยของข้อสอบคือข้อที่เป็นตัวหนา#####
1. พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ ไม่ได้กำหนดให้หน่วยงานใดมีสิทธิจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน 
ก. หน่วยงานหรือสถานศึกษาของรัฐและเอกชน
ข. มหาวิทยาลัยของรัฐและเอกชน
ค. องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ง. องค์กรวิชาชีพ สถาบันศาสนา และสถานประกอบการ
2. พรบ.การศึกษาแห่งชาติ สอดคล้องกับข้อใดมากที่สุด 
ก. แผนพัฒนาเศรษฐกิจ สังคมแห่งชาติ
ข. แผนพัฒนาการศึกษาแห่งชาติ
ค. แผนการศึกษาแห่งชาติ
ง. แผนพัฒนาการศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรมของกระทรวงศึกษาธิการ
3. การจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาผู้เรียนตามความถนัดความสนใจ ศักยภาพและความสามารถพิเศษเฉพาะด้าน เพื่อเป็นพื้นฐานสำหรับการศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา 
ก. ระดับประถมศึกษา
ข. ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น
ค. ระดับมัธยมศึกษาตอนปลายประเภทสามัญศึกษา
ง. ระดับมัธยมศึกษาตอนปลายประเภทอาชีวศึกษา
4. การจัดการศึกษาเพื่อวางรากฐานชีวิตและการเตรียมความพร้อมของเด็กทั้งร่างกายและจิตใจสติปัญญาอารมณ์ บุคลิกภาพและการอยู่ร่วมกันในสังคม 
ก. การศึกษาระดับก่อนประถมศึกษา
ข. การศึกษาระดับประถมศึกษา
ค. การศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้น
ง. การศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
5. จุดที่ต่างกันของการศึกษาในระบบ นอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยที่สำคัญคือข้อใด 
ก. ระยะเวลาที่จัดการศึกษา
ข. สถานที่จัดการศึกษา
ค. ตัวผู้เข้ารับการศึกษา
ง. จุดหมาย วิธีการ หลักสูตร
6. การจัดการศึกษาระดับประถมศึกษาโดยปกติใช้เวลาเรียนกี่ปี 
ก. 4 ปี
ข. 6 ปี
ค. 9 ปี
ง. 12 ปี
7. กรณีที่ต้องถูกระวางโทษปรับมากที่สุดได้แก่กรณีใด 
ก. ผู้ปกครองไม่ส่งเด็กเข้าเรียน
ข. กระทำการใดๆ ก็ตามเพื่อมิให้เด็กเข้าเรียน
ค. ไม่แจ้งสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษากรณีที่ไม่ใช่ผู้ปกครองและมีเด็กภาคบังคับอาศัยอยู่ด้วย
ง. ถูกระวางโทษเท่ากันคือ ไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท
8. ตำแหน่งข้าราชการครูตามข้อใดที่สังกัดต่างหน่วยงาน 
ก. ครู
ข. คณาจารย์
ค. ผู้บริหารสถานศึกษา
ง. ผู้บริหารการศึกษา
9. การจัดระบบโครงสร้างและกระบวนการจัดการศึกษาให้ยึดหลักอะไรบ้าง 
ก. มีเอกภาพด้านนโยบายหลากหลายในการปฏิบัติ
ข. มีการกระจายอำนาจไปสู่เขตพื้นที่การศึกษาและสถานศึกษา
ค. ระดมทรัพยากรจากแหล่งต่างๆ มาใช้ในการจัดการศึกษา
ง. ถูกทุกข้อ
10. พรบ.การศึกษาแห่งชาติ เป็นไปตามบทบัญญัติใน รัฐธรรมนูญพ.ศ. 2540 มาตราใด 
ก. 29
ข. 40
ค. 50
ง. 81
11. การจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานแบ่งได้เป็น 3 ระดับยกเว้นข้อใด 
ก. ระดับก่อนประถมศึกษา
ข. ระดับประถมศึกษา
ค. ระดับมัธยมศึกษา
ง. ระดับก่อนอุดมศึกษา
12. ข้อใดไม่ถูกต้อง เกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ บิดามารดา ผู้ปกครอง พึงได้รับในการจัดการศึกษา 
ก. การสนับสนุนจากรัฐ ให้ความรู้ความสามารถในการอบรมเลี้ยงดู
ข. การยกเว้นเงินภาษีสำหรับค่าใช้จ่ายด้านการศึกษา
ค. เงินอุดหนุนจากรัฐสำหรับการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานของคนในการดูแล
ง. การให้การศึกษาแก่บุตรหรือบุคคลในการดูแล
13. พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติจัดเป็น 
ก. กฎหมายแม่บทการจัดการศึกษา
ข. แนวทางจัดการศึกษาของรัฐ
ค. การปรับปรุงการศึกษาสอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ
ง. การปฏิรูปการศึกษาครั้งใหญ่ของไทย
14. บุคคลที่มีอำนาจในการออกบัตรประจำตัวพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติการศึกษาภาคบังคับ คือใคร 
ก. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
ข. ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
ค. ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
ง. ผู้ว่าราชการจังหวัด
15. บุคคลที่มีหน้าที่เข้าไปตรวจสอบการเข้าเรียนของเด็กนักเรียน ต้องดำเนินการอย่างไร 
ก. เข้าไปตรวจสอบระหว่างเวลาพระอาทิตย์ขึ้นจนถึงพระอาทิตย์ตก
ข. ต้องแสดงบัตรประจำตัวแก่บุคคลที่เกี่ยวข้อง
ค. จัดให้มีการบันทึกข้อมูลหรือบันทึกอนุญาตการตรวจสอบ
ง. ถูกทุกข้อ
16. วัตถุประสงค์ของการจัดทำ พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ 
ก. ปรับปรุงการศึกษาให้สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคม
ข. ปฏิรูปการศึกษาของไทย
ค. พัฒนาคนไทยเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ทั้งทางร่างกายจิตใจ
ง. พัฒนาศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
17. ข้อใดไม่สอดคล้องการจัดระบบโครงสร้างและกระบวนการการจัดการศึกษา 
ก. กระจายอำนาจสู่สถานศึกษาทั้งหมด
ข. กำหนดมาตรฐานการศึกษา จัดระบบประกันคุณภาพ
ค. มีหลักการส่งเสริมมาตรฐานวิชาชีพครูคณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา
ง. ระดมทรัพยากรจากแหล่งต่าง ๆ มาใช้ในการจัดการศึกษา
18. ข้อใดไม่ถูกต้องในด้านการกระจายอำนาจให้เขตพื้นที่และสถานศึกษา 
ก. ด้านวิชาการ
ข. งบประมาณ
ค. หลักสูตรการสอน
ง. การบริหารทั่วไป
19. หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับระบบประกันคุณภาพภายในได้แก่ 
ก. สถานศึกษาเท่านั้น
ข. สถานศึกษาและเขตพื้นที่
ค. สถานศึกษา เขตพื้นที่ คณะกรรมการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ง. สถานศึกษา เขตพื้นที่ คณะกรรมการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ
20. การจัดการศึกษาระดับใดเป็นการจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาความรู้และทักษะในการประกอบอาชีพให้เป็นกำลังแรงงานที่มีฝีมือหรือการศึกษาต่อระดับในระดับอาชีพชั้นสูงต่อไป 
ก. ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น
ข. ระดับมัธยมศึกษาตอนปลายประเภทสามัญศึกษา
ค. ระดับมัธยมศึกษาตอนปลายประเภทอาชีวศึกษา
ง. ระดับที่ต่ำกว่าปริญญา
21. คำว่า "เอกภาพด้านนโยบาย หลากหลายในการปฏิบัติ" สอดคล้องกับข้อใด 
ก. ส่วนกลางกำหนดนโยบาย ส่วนภูมิภาคกำหนดแนวทางปฏิบัติ
ข. กระทรวงกำหนดนโยบายมาตรฐานสนับสนุนเขตพื้นที่และสถานศึกษาบริหารจัดการด้วยตนเอง
ค. มีนโยบายเดียวกัน การปฏิบัติหลากหลายวิธี
ง. ถูกทุกข้อ
22. ต่อไปนี้ ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง 
ก. การศึกษาขั้นพื้นฐาน หมายความว่าการศึกษาก่อนระดับอุดมศึกษา
ข. ผู้สอน หมายความว่า ครูและคณาจารย์ในสถานศึกษาระดับต่างๆ
ค. กระทรวง หมายความว่ากระทรวงการศึกษา
ง. ครู หมายความว่าบุคลากรวิชาชีพซึ่งทำหน้าที่หลักทางด้านการเรียนการสอนและส่งเสริมการเรียนรู้ของผู้เรียนด้วยวิธีการต่างๆ ในสถานศึกษาทั้งของรัฐและเอกชน
23. หากผู้บริหารในฐานะที่เป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติการศึกษาภาคบังคับ จะทำบัตรประจำตัวพนักงานเจ้าหน้าที่ให้ยื่นทำบัตรต่อใคร 
ก. ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
ข. ผู้บริหารสถานศึกษาออกเอง
ค. เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ง. ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
24. อายุสำหรับเด็กการศึกษาภาคบังคับ 
ก. ย่างเข้าปีที่ 6 - ย่างเข้าปีที่ 16
ข. ย่างเข้าปีที่ 7 - ย่างเข้าปีที่ 16
ค. ย่างเข้าปีที่ 6 - ย่างเข้าปีที่ 17
ง. ย่างเข้าปีที่ 7 - ย่างเข้าปีที่ 17
25. ต่อไปนี้ ข้อใดไม่ใช่ สถานศึกษาสำหรับปฐมวัยและการศึกษาขั้นพื้นฐาน 
ก. โรงเรียน
ข. ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก
ค. ศูนย์พัฒนาชุมชน
ง. ศูนย์พัฒนาเด็กก่อนเกณฑ์ สถาบันศาสนา
26. ข้อใดไม่ถูกต้องเกี่ยวกับการศึกษาตามอัธยาศัย 
ก. สถานศึกษา ต้องจัดการศึกษา ทั้งในระบบนอกระบบ และตามอัธยาศัย
ข. ผู้เรียนได้เรียนรู้ด้วยตนเองตามความสนใจศักยภาพ ความพร้อม และโอกาส
ค. จัดการเรียนรู้ได้ในทุกที่ ทุกเวลา
ง. ธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมเป็นแหล่งเรียนรู้ได้
27. ตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ ไม่ได้กำหนดสิทธิในการรับการศึกษาสำหรับคนพิการในเรื่องใด 
ก. สิ่งอำนวยความสะดวก
ข. สื่อ บริการ
ค. ความช่วยเหลืออื่นใด
ง. เงินอุดหนุนปัจจัยพื้นฐาน
28. หลักการจัดการศึกษาข้อใด ไม่สอดคล้องกับสาระตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ 
ก. ผู้เรียนทุกคนสามารถเรียนรู้พัฒนาตนเองได้
ข. ครูต้องมีจิตสำนึกที่จะพัฒนาเด็กอย่างเต็มความสามารถ
ค. ผู้เรียนมีความสำคัญที่สุด
ง. ต้องส่งเสริมผู้เรียนพัฒนาตามศักยภาพ
29. ข้อใดไม่ใช่หลักการพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 
ก. เป็นการศึกษาขั้นพื้นฐานเพื่อปวงชน
ข. เป็นการศึกษาตลอดชีวิตสำหรับประชาชน
ค. ให้สังคมมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา
ง. พัฒนา สาระ และกระบวนการเรียนรู้ให้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง
30. เด็กจบการศึกษาภาคบังคับในสถานศึกษาสังกัดสพท. หมายถึงเด็กจบชั้นใด 
ก. ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
ข. ชั้นประถมศึกษาปีที่ 9
ค. ชั้นปีที่ 9
ง. ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
31. ข้อใดไม่ใช่หลักการจัดการศึกษาตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 
ก. เป็นการศึกษาตลอดชีวิตสำหรับประชาชน
ข. ให้สังคมมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา
ค. การพัฒนาสาระและกระบวนการเรียนรู้ให้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง
ง. การจัดการศึกษาสำหรับบุคคลซึ่งมีความบกพร่องทางร่างกาย จิตใจ สติปัญญาอารมณ์ และสังคม
32. การจัดการศึกษาที่มีความยืดหยุ่น ในหลักสูตรวิธีการ การประเมินผลและจุดมุ่งหมาย 
ก. การศึกษาในระบบ
ข. การศึกษานอกระบบ
ค. การศึกษาตามอัธยาศัย
ง. การศึกษาเฉพาะทาง
33. ตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ รัฐต้องให้ความช่วยเหลือเป็นกี่เท่าของเงินทุนด้านสื่อและวัสดุการศึกษาที่จัดสรรให้แก่เด็กนักเรียนทั่วไปต่อคน 
ก. ไม่เกิน 2 เท่า
ข. ไม่เกิน 3 เท่า
ค. ไม่เกิน 4 เท่า
ง. ไม่เกิน 5 เท่า
34. บุคคลที่มีหน้าที่เข้าไปตรวจสอบการเข้าเรียนของเด็กการศึกษาภาคบังคับในสถานที่ใดๆ 
ก. ผู้อำนวยการสถานศึกษา
ข. ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
ค. พนักงานเจ้าหน้าที่
ง. ทั้งข้อ ก ข และ ค
35. ผู้ที่ไม่ใช่ผู้ปกครองที่มีเด็กอายุในเกณฑ์การศึกษาภาคบังคับอาศัยอยู่ด้วย ต้องแจ้งต่อสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาภายในกี่วัน นับจากวันที่มีเด็กอาศัยอยู่ด้วย 
ก. 15 วัน
ข. 30 วัน
ค. 45 วัน
ง. 60 วัน
36. ข้อใดไม่สอดคล้องกับการจัดกระบวนการเรียนรู้ตามความมุ่งหมายของ พรบ.การศึกษาแห่งชาติ 
ก. ปลูกฝังจิตสำนึกการเมือง การปกครองระบอบประชาธิปไตยมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
ข. รักษา และส่งเสริมสิทธิ หน้าที่ เสรีภาพเคารพกฎหมาย
ค. รู้จักรักษาผลประโยชน์ ส่วนรวมของประเทศชาติ
ง. กระจายการพัฒนาไปสู่ชนบทโดยการมีส่วนร่วมของภูมิปัญญาท้องถิ่น
37. การจัดการศึกษาเพื่อมุ่งวางรากฐานเพื่อให้ผู้เรียนได้พัฒนาคุณลักษณะที่พึงประสงค์ทั้งด้านคุณธรรมจริยธรรม ด้านความรู้ความสามารถขั้นพื้นฐานหมายถึงการจัดการศึกษาระดับใด 
ก. ระดับก่อนประถมศึกษา
ข. ระดับประถมศึกษา
ค. ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น
ง. ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
38. ข้อใดให้ความหมายไม่ตรงกับ พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ 
ก. การศึกษาขั้นพื้นฐาน คือการศึกษาก่อนระดับอุดมศึกษา
ข. สถานศึกษา คือสถานที่จัดการสอนตั้งแต่ก่อนประถม ถึงระดับก่อนอุดมศึกษา
ค. มาตรฐานการศึกษา เป็นข้อกำหนดเกี่ยวกับคุณลักษณะ คุณภาพที่พึงประสงค์ และมาตรฐานที่ต้องการให้เกิดในสถานศึกษาทุกแห่ง
ง. กระทรวง หมายความว่ากระทรวงศึกษาธิการ
39. พรบ.การศึกษาแห่งชาติ ฉบับแรก มีผลบังคับใช้ตั้งแต่เมื่อใด 
ก. 19-ส.ค.-42
ข. 20-ส.ค.-42
ค. 19-ธ.ค.-45
ง. 20-ธ.ค.-45
40. บุคคลใดต่อไปนี้ มิใช่พนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติการศึกษาภาคบังคับ 
ก. ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
ข. ปลัดอำเภอในกรณีที่ท้องที่นั้นมีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดการศึกษา
ค. ผู้บริหารสถานศึกษา
ง. กำนันผู้ใหญ่บ้าน
41. ข้อใดไม่ถูกต้อง 
ก. ให้มีการประเมินคุณภาพภายนอกครั้งแรกใน 5 ปี
ข. สำนักงานรับรองมาตรฐานและประกันคุณภาพการศึกษามีฐานะเป็นองค์กรมหาชน
ค. การประเมินผลคำนึงถึงความมุ่งหมายและหลักการจัดการศึกษา
ง. เสนอผลประเมินต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและสาธารณชน
42. องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีสิทธิ์จัดการศึกษาระดับใด 
ก. การศึกษาขั้นพื้นฐาน
ข. การศึกษาอุดมศึกษา
ค. การศึกษานอกโรงเรียน
ง. ทุกระดับ
43. ต่อไปนี้ ข้อใดไม่กล่าวถึงสิทธิในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน 
ก. บุคคล
ข. เอกชน
ค. องค์กรปกครองท้องถิ่น
ง. ครู อาจารย์
44. ต่อไปนี้ข้อใดไม่ใช่องค์ประกอบของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน 
ก. ผู้แทนครู
ข. ผู้แทนองค์กรเอกชน
ค. ผู้แทนศิษย์เก่า
ง. ผู้แทนคุณวุฒิ
45. ต่อไปนี้ ข้อใดไม่สอดคล้องคำว่าการศึกษา 
ก. การถ่ายทอดความรู้
ข. การฝึกอบรม
ค. การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์
ง. การสืบสานทางวัฒนธรรม
46. ความมุ่งหมายของการจัดการศึกษาตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ 
ก. ปรับปรุงการศึกษาให้สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคม
ข. ปฏิรูปการศึกษาของไทย
ค. พัฒนาคนให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ทั้งร่างกายจิตใจ
ง. พัฒนาศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
47. หากเด็กจะเข้าเรียนการศึกษาภาคบังคับในปีการศึกษา 2551 จะต้องเป็นเด็กที่เกิดในปี พ.ศ.ใด 
ก. 2541
ข. 2542
ค. 2543
ง. 2544
48. ข้อใดสำคัญที่สุดเกี่ยวกับหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน 
ก. พัฒนาคุณภาพชีวิตบุคคลให้เหมาะสมกับวัยตามศักยภาพ
ข. สอดคล้องความต้องการชุมชน
ค. คำนึงถึงภูมิปัญญาท้องถิ่น
ง. เหมาะสมกับความก้าวหน้าด้านวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี
49. การนับอายุเด็กเพื่อเข้ารับการศึกษาภาคบังคับในสถานศึกษาขั้นพื้นฐานให้นับตามข้อใด 
ก. ครบเจ็ดปีในปีใดนับเด็กอายุย่างเข้าปีที่เจ็ดในปีนั้น
ข. นับตามปีงบประมาณ
ค. นับตามปีปฏิทิน
ง. ข้อ ก และ ค ถูกต้อง
50. ใครมีอำนาจอนุญาตผ่อนผันเด็กเข้าเรียนก่อนหรือหลังอายุตามเกณฑ์การศึกษาภาคบังคับ 
ก. ผู้อำนวยการสถานศึกษา
ข. ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
ค. ผู้อำนวยการกองการศึกษาเทศบาล
ง. ถูกทุกข้อ

http://www.thaitestonline.com


แนวข้อสอบครูผู้ช่วย,พรบ.การศึกษาแห่งชาติ,พรบ.,สภาครู,บุคลากรทางการศึกษา,ครูผู้ช่วย 2558,ครูผู้ช่วย กทม,ครูผู้ช่วย 58,ดาวน์โหลด แนว ข้อสอบ ครู ผู้ ช่วย พร้อม เฉลย,ทํา ข้อสอบ ครู ผู้ ช่วย,ครูผู้ช่วย ปี 2558,ครูผู้ช่วย ปี 58,ข้อสอบ บรรจุ ครู ผู้ ช่วย พร้อม เฉลย,แนว ข้อสอบ ครู ผู้ ช่วย พร้อม เฉลย


วันเสาร์ที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2558

เฉลยรวมแนวข้อสอบบรรจุครูผู้ช่วย ชุด พรบ.การศึกษาแห่งชาติ

1. ข้อใดไม่ถูกต้อง เกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ บิดามารดา ผู้ปกครอง พึงได้รับในการจัดการศึกษา
ก. การสนับสนุนจากรัฐ ให้ความรู้ความสามารถในการอบรมเลี้ยงดู
ข. การยกเว้นเงินภาษีสำหรับค่าใช้จ่ายด้านการศึกษา
ค. เงินอุดหนุนจากรัฐสำหรับการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานของคนในการดูแล
ง. การให้การศึกษาแก่บุตรหรือบุคคลในการดูแล
2. ข้อใดไม่สอดคล้องกับการจัดกระบวนการเรียนรู้ตามความมุ่งหมายของ พรบ.การศึกษาแห่งชาติ
ก. ปลูกฝังจิตสำนึกการเมือง การปกครองระบอบประชาธิปไตยมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
ข. รักษา และส่งเสริมสิทธิ หน้าที่ เสรีภาพเคารพกฎหมาย
ค. รู้จักรักษาผลประโยชน์ ส่วนรวมของประเทศชาติ
ง. กระจายการพัฒนาไปสู่ชนบทโดยการมีส่วนร่วมของภูมิปัญญาท้องถิ่น
3. ตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ รัฐต้องให้ความช่วยเหลือเป็นกี่เท่าของเงินทุนด้านสื่อและวัสดุการศึกษาที่จัดสรรให้แก่เด็กนักเรียนทั่วไปต่อคน
ก. ไม่เกิน 2 เท่า
ข. ไม่เกิน 3 เท่า
ค. ไม่เกิน 4 เท่า
ง. ไม่เกิน 5 เท่า
4. การจัดการศึกษาเพื่อวางรากฐานชีวิตและการเตรียมความพร้อมของเด็กทั้งร่างกายและจิตใจสติปัญญาอารมณ์ บุคลิกภาพและการอยู่ร่วมกันในสังคม
ก. การศึกษาระดับก่อนประถมศึกษา
ข. การศึกษาระดับประถมศึกษา
ค. การศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้น
ง. การศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
5. วัตถุประสงค์ของการจัดทำ พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ
ก. ปรับปรุงการศึกษาให้สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคม
ข. ปฏิรูปการศึกษาของไทย
ค. พัฒนาคนไทยเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ทั้งทางร่างกายจิตใจ
ง. พัฒนาศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
6. พรบ.การศึกษาแห่งชาติ สอดคล้องกับข้อใดมากที่สุด
ก. แผนพัฒนาเศรษฐกิจ สังคมแห่งชาติ
ข. แผนพัฒนาการศึกษาแห่งชาติ
ค. แผนการศึกษาแห่งชาติ
ง. แผนพัฒนาการศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรมของกระทรวงศึกษาธิการ
7. การจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาผู้เรียนตามความถนัดความสนใจ ศักยภาพและความสามารถพิเศษเฉพาะด้าน เพื่อเป็นพื้นฐานสำหรับการศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา
ก. ระดับประถมศึกษา
ข. ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น
ค. ระดับมัธยมศึกษาตอนปลายประเภทสามัญศึกษา
ง. ระดับมัธยมศึกษาตอนปลายประเภทอาชีวศึกษา
8. บุคคลที่มีอำนาจในการออกบัตรประจำตัวพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติการศึกษาภาคบังคับ คือใคร
ก. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
ข. ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
ค. ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
ง. ผู้ว่าราชการจังหวัด
9. ข้อใดไม่สอดคล้องการจัดระบบโครงสร้างและกระบวนการการจัดการศึกษา
ก. กระจายอำนาจสู่สถานศึกษาทั้งหมด
ข. กำหนดมาตรฐานการศึกษา จัดระบบประกันคุณภาพ
ค. มีหลักการส่งเสริมมาตรฐานวิชาชีพครูคณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา
ง. ระดมทรัพยากรจากแหล่งต่าง ๆ มาใช้ในการจัดการศึกษา
10. จุดที่ต่างกันของการศึกษาในระบบ นอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยที่สำคัญคือข้อใด
ก. ระยะเวลาที่จัดการศึกษา
ข. สถานที่จัดการศึกษา
ค. ตัวผู้เข้ารับการศึกษา
ง. จุดหมาย วิธีการ หลักสูตร
11. ข้อใดไม่ใช่หลักการพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542
ก. เป็นการศึกษาขั้นพื้นฐานเพื่อปวงชน
ข. เป็นการศึกษาตลอดชีวิตสำหรับประชาชน
ค. ให้สังคมมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา
ง. พัฒนา สาระ และกระบวนการเรียนรู้ให้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง
12. ข้อใดไม่ถูกต้อง
ก. ให้มีการประเมินคุณภาพภายนอกครั้งแรกใน 5 ปี
ข. สำนักงานรับรองมาตรฐานและประกันคุณภาพการศึกษามีฐานะเป็นองค์กรมหาชน
ค. การประเมินผลคำนึงถึงความมุ่งหมายและหลักการจัดการศึกษา
ง. เสนอผลประเมินต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและสาธารณชน
13. ตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ ไม่ได้กำหนดสิทธิในการรับการศึกษาสำหรับคนพิการในเรื่องใด
ก. สิ่งอำนวยความสะดวก
ข. สื่อ บริการ
ค. ความช่วยเหลืออื่นใด
ง. เงินอุดหนุนปัจจัยพื้นฐาน
14. พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติจัดเป็น
ก. กฎหมายแม่บทการจัดการศึกษา
ข. แนวทางจัดการศึกษาของรัฐ
ค. การปรับปรุงการศึกษาสอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ
ง. การปฏิรูปการศึกษาครั้งใหญ่ของไทย
15. การจัดการศึกษาที่มีความยืดหยุ่น ในหลักสูตรวิธีการ การประเมินผลและจุดมุ่งหมาย
ก. การศึกษาในระบบ
ข. การศึกษานอกระบบ
ค. การศึกษาตามอัธยาศัย
ง. การศึกษาเฉพาะทาง
16. ข้อใดไม่ถูกต้องเกี่ยวกับการศึกษาตามอัธยาศัย
ก. สถานศึกษา ต้องจัดการศึกษา ทั้งในระบบนอกระบบ และตามอัธยาศัย
ข. ผู้เรียนได้เรียนรู้ด้วยตนเองตามความสนใจศักยภาพ ความพร้อม และโอกาส
ค. จัดการเรียนรู้ได้ในทุกที่ ทุกเวลา
ง. ธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมเป็นแหล่งเรียนรู้ได้
17. ใครมีอำนาจอนุญาตผ่อนผันเด็กเข้าเรียนก่อนหรือหลังอายุตามเกณฑ์การศึกษาภาคบังคับ
ก. ผู้อำนวยการสถานศึกษา
ข. ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
ค. ผู้อำนวยการกองการศึกษาเทศบาล
ง. ถูกทุกข้อ
18. การจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานแบ่งได้เป็น 3 ระดับยกเว้นข้อใด
ก. ระดับก่อนประถมศึกษา
ข. ระดับประถมศึกษา
ค. ระดับมัธยมศึกษา
ง. ระดับก่อนอุดมศึกษา
19. การจัดการศึกษาระดับใดเป็นการจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาความรู้และทักษะในการประกอบอาชีพให้เป็นกำลังแรงงานที่มีฝีมือหรือการศึกษาต่อระดับในระดับอาชีพชั้นสูงต่อไป
ก. ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น
ข. ระดับมัธยมศึกษาตอนปลายประเภทสามัญศึกษา
ค. ระดับมัธยมศึกษาตอนปลายประเภทอาชีวศึกษา
ง. ระดับที่ต่ำกว่าปริญญา
20. กรณีที่ต้องถูกระวางโทษปรับมากที่สุดได้แก่กรณีใด
ก. ผู้ปกครองไม่ส่งเด็กเข้าเรียน
ข. กระทำการใดๆ ก็ตามเพื่อมิให้เด็กเข้าเรียน
ค. ไม่แจ้งสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษากรณีที่ไม่ใช่ผู้ปกครองและมีเด็กภาคบังคับอาศัยอยู่ด้วย
ง. ถูกระวางโทษเท่ากันคือ ไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท
21. การจัดการศึกษาเพื่อมุ่งวางรากฐานเพื่อให้ผู้เรียนได้พัฒนาคุณลักษณะที่พึงประสงค์ทั้งด้านคุณธรรมจริยธรรม ด้านความรู้ความสามารถขั้นพื้นฐานหมายถึงการจัดการศึกษาระดับใด
ก. ระดับก่อนประถมศึกษา
ข. ระดับประถมศึกษา
ค. ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น
ง. ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
22. หลักการจัดการศึกษาข้อใด ไม่สอดคล้องกับสาระตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ
ก. ผู้เรียนทุกคนสามารถเรียนรู้พัฒนาตนเองได้
ข. ครูต้องมีจิตสำนึกที่จะพัฒนาเด็กอย่างเต็มความสามารถ
ค. ผู้เรียนมีความสำคัญที่สุด
ง. ต้องส่งเสริมผู้เรียนพัฒนาตามศักยภาพ
23. ต่อไปนี้ ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง
ก. การศึกษาขั้นพื้นฐาน หมายความว่าการศึกษาก่อนระดับอุดมศึกษา
ข. ผู้สอน หมายความว่า ครูและคณาจารย์ในสถานศึกษาระดับต่างๆ
ค. กระทรวง หมายความว่ากระทรวงการศึกษา
ง. ครู หมายความว่าบุคลากรวิชาชีพซึ่งทำหน้าที่หลักทางด้านการเรียนการสอนและส่งเสริมการเรียนรู้ของผู้เรียนด้วยวิธีการต่างๆ ในสถานศึกษาทั้งของรัฐและเอกชน
24. การนับอายุเด็กเพื่อเข้ารับการศึกษาภาคบังคับในสถานศึกษาขั้นพื้นฐานให้นับตามข้อใด
ก. ครบเจ็ดปีในปีใดนับเด็กอายุย่างเข้าปีที่เจ็ดในปีนั้น
ข. นับตามปีงบประมาณ
ค. นับตามปีปฏิทิน
ง. ข้อ ก และ ค ถูกต้อง
25. ต่อไปนี้ ข้อใดไม่สอดคล้องคำว่าการศึกษา
ก. การถ่ายทอดความรู้
ข. การฝึกอบรม
ค. การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์
ง. การสืบสานทางวัฒนธรรม
26. การจัดระบบโครงสร้างและกระบวนการจัดการศึกษาให้ยึดหลักอะไรบ้าง
ก. มีเอกภาพด้านนโยบายหลากหลายในการปฏิบัติ
ข. มีการกระจายอำนาจไปสู่เขตพื้นที่การศึกษาและสถานศึกษา
ค. ระดมทรัพยากรจากแหล่งต่างๆ มาใช้ในการจัดการศึกษา
ง. ถูกทุกข้อ
27. หากเด็กจะเข้าเรียนการศึกษาภาคบังคับในปีการศึกษา 2551 จะต้องเป็นเด็กที่เกิดในปี พ.ศ.ใด
ก. 2541
ข. 2542
ค. 2543
ง. 2544
28. ข้อใดให้ความหมายไม่ตรงกับ พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ
ก. การศึกษาขั้นพื้นฐาน คือการศึกษาก่อนระดับอุดมศึกษา
ข. สถานศึกษา คือสถานที่จัดการสอนตั้งแต่ก่อนประถม ถึงระดับก่อนอุดมศึกษา
ค. มาตรฐานการศึกษา เป็นข้อกำหนดเกี่ยวกับคุณลักษณะ คุณภาพที่พึงประสงค์ และมาตรฐานที่ต้องการให้เกิดในสถานศึกษาทุกแห่ง
ง. กระทรวง หมายความว่ากระทรวงศึกษาธิการ
29. ต่อไปนี้ ข้อใดไม่ใช่ สถานศึกษาสำหรับปฐมวัยและการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ก. โรงเรียน
ข. ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก
ค. ศูนย์พัฒนาชุมชน
ง. ศูนย์พัฒนาเด็กก่อนเกณฑ์ สถาบันศาสนา
30. พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ ไม่ได้กำหนดให้หน่วยงานใดมีสิทธิจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ก. หน่วยงานหรือสถานศึกษาของรัฐและเอกชน
ข. มหาวิทยาลัยของรัฐและเอกชน
ค. องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ง. องค์กรวิชาชีพ สถาบันศาสนา และสถานประกอบการ
31. อายุสำหรับเด็กการศึกษาภาคบังคับ
ก. ย่างเข้าปีที่ 6 - ย่างเข้าปีที่ 16
ข. ย่างเข้าปีที่ 7 - ย่างเข้าปีที่ 16
ค. ย่างเข้าปีที่ 6 - ย่างเข้าปีที่ 17
ง. ย่างเข้าปีที่ 7 - ย่างเข้าปีที่ 17
32. คำว่า “เอกภาพด้านนโยบาย หลากหลายในการปฏิบัติ” สอดคล้องกับข้อใด
ก. ส่วนกลางกำหนดนโยบาย ส่วนภูมิภาคกำหนดแนวทางปฏิบัติ
ข. กระทรวงกำหนดนโยบายมาตรฐานสนับสนุนเขตพื้นที่และสถานศึกษาบริหารจัดการด้วยตนเอง
ค. มีนโยบายเดียวกัน การปฏิบัติหลากหลายวิธี
ง. ถูกทุกข้อ
33. ข้อใดไม่ใช่หลักการจัดการศึกษาตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542
ก. เป็นการศึกษาตลอดชีวิตสำหรับประชาชน
ข. ให้สังคมมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา
ค. การพัฒนาสาระและกระบวนการเรียนรู้ให้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง
ง. การจัดการศึกษาสำหรับบุคคลซึ่งมีความบกพร่องทางร่างกาย จิตใจ สติปัญญาอารมณ์ และสังคม
34. การจัดการศึกษาระดับประถมศึกษาโดยปกติใช้เวลาเรียนกี่ปี
ก. 4 ปี
ข. 6 ปี
ค. 9 ปี
ง. 12 ปี
35. บุคคลใดต่อไปนี้ มิใช่พนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติการศึกษาภาคบังคับ
ก. ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
ข. ปลัดอำเภอในกรณีที่ท้องที่นั้นมีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดการศึกษา
ค. ผู้บริหารสถานศึกษา
ง. กำนันผู้ใหญ่บ้าน
36. องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีสิทธิ์จัดการศึกษาระดับใด
ก. การศึกษาขั้นพื้นฐาน
ข. การศึกษาอุดมศึกษา
ค. การศึกษานอกโรงเรียน
ง. ทุกระดับ
37. ข้อใดไม่ถูกต้องในด้านการกระจายอำนาจให้เขตพื้นที่และสถานศึกษา
ก. ด้านวิชาการ
ข. งบประมาณ
ค. หลักสูตรการสอน
ง. การบริหารทั่วไป
38. ต่อไปนี้ ข้อใดไม่กล่าวถึงสิทธิในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ก. บุคคล
ข. เอกชน
ค. องค์กรปกครองท้องถิ่น
ง. ครู อาจารย์
39. หากผู้บริหารในฐานะที่เป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติการศึกษาภาคบังคับ จะทำบัตรประจำตัวพนักงานเจ้าหน้าที่ให้ยื่นทำบัตรต่อใคร
ก. ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
ข. ผู้บริหารสถานศึกษาออกเอง
ค. เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ง. ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
40. พรบ.การศึกษาแห่งชาติ เป็นไปตามบทบัญญัติใน รัฐธรรมนูญพ.ศ. 2540 มาตราใด
ก. 29
ข. 40
ค. 50
ง. 81
41. ความมุ่งหมายของการจัดการศึกษาตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ
ก. ปรับปรุงการศึกษาให้สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคม
ข. ปฏิรูปการศึกษาของไทย
ค. พัฒนาคนให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ทั้งร่างกายจิตใจ
ง. พัฒนาศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
42. พรบ.การศึกษาแห่งชาติ ฉบับแรก มีผลบังคับใช้ตั้งแต่เมื่อใด
ก. 19-ส.ค.-42
ข. 20-ส.ค.-42
ค. 19-ธ.ค.-45
ง. 20-ธ.ค.-45
43. บุคคลที่มีหน้าที่เข้าไปตรวจสอบการเข้าเรียนของเด็กการศึกษาภาคบังคับในสถานที่ใดๆ
ก. ผู้อำนวยการสถานศึกษา
ข. ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
ค. พนักงานเจ้าหน้าที่
ง. ทั้งข้อ ก ข และ ค
44. เด็กจบการศึกษาภาคบังคับในสถานศึกษาสังกัดสพท. หมายถึงเด็กจบชั้นใด
ก. ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
ข. ชั้นประถมศึกษาปีที่ 9
ค. ชั้นปีที่ 9
ง. ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
45. หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับระบบประกันคุณภาพภายในได้แก่
ก. สถานศึกษาเท่านั้น
ข. สถานศึกษาและเขตพื้นที่
ค. สถานศึกษา เขตพื้นที่ คณะกรรมการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ง. สถานศึกษา เขตพื้นที่ คณะกรรมการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ
46. ตำแหน่งข้าราชการครูตามข้อใดที่สังกัดต่างหน่วยงาน
ก. ครู
ข. คณาจารย์
ค. ผู้บริหารสถานศึกษา
ง. ผู้บริหารการศึกษา
47. ผู้ที่ไม่ใช่ผู้ปกครองที่มีเด็กอายุในเกณฑ์การศึกษาภาคบังคับอาศัยอยู่ด้วย ต้องแจ้งต่อสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาภายในกี่วัน นับจากวันที่มีเด็กอาศัยอยู่ด้วย
ก. 15 วัน
ข. 30 วัน
ค. 45 วัน
ง. 60 วัน
48. ต่อไปนี้ข้อใดไม่ใช่องค์ประกอบของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน
ก. ผู้แทนครู
ข. ผู้แทนองค์กรเอกชน
ค. ผู้แทนศิษย์เก่า
ง. ผู้แทนคุณวุฒิ
49. ข้อใดสำคัญที่สุดเกี่ยวกับหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ก. พัฒนาคุณภาพชีวิตบุคคลให้เหมาะสมกับวัยตามศักยภาพ
ข. สอดคล้องความต้องการชุมชน
ค. คำนึงถึงภูมิปัญญาท้องถิ่น
ง. เหมาะสมกับความก้าวหน้าด้านวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี
50. บุคคลที่มีหน้าที่เข้าไปตรวจสอบการเข้าเรียนของเด็กนักเรียน ต้องดำเนินการอย่างไร
ก. เข้าไปตรวจสอบระหว่างเวลาพระอาทิตย์ขึ้นจนถึงพระอาทิตย์ตก
ข. ต้องแสดงบัตรประจำตัวแก่บุคคลที่เกี่ยวข้อง
ค. จัดให้มีการบันทึกข้อมูลหรือบันทึกอนุญาตการตรวจสอบ
ง. ถูกทุกข้อ

วันเสาร์ที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2558

ทำแบบทดสอบออนไลน์



เพิ่มช่องทางการเข้าใช้เว็บแบบทดสอบออนไลน์ให้สามารถเข้าใช่ได้มากขึ้น โดยเปิดบริการเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ ซึ่งมีเนื้อหาตัวข้อสอบเหมือนกัน ทั้งหมด โดยเว็บที่สามารถเข้าใช้ได้ตอนนี้ก็มีอยู่ 4 เว็บด้วยกัน คือ

เฉลยแนวข้อสอบครูผู้ช่วย ความรอบรู้ ชุดเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร

เฉลยแนวข้อสอบครูผู้ช่วย ความรอบรู้ ชุดเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร

http://www.thaitestonline.com

#####เฉลยของข้อสอบคือข้อที่เป็นตัวหนา#####
1. การนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการจัดการศึกษา เพื่อเผยแพร่ข่าวสารประชาสัมพันธ์ระหว่างสถานศึกษากับผู้เกี่ยวข้องและบุคคลทั่วไป 
ก. อินเตอร์เน็ต
ข. เว็บไซต์
ค. คอมพิวเตอร์ช่วยสอน
ง. การเรียนรู้ผ่านสื่อ
2. แผนเทคโนโลยีการเรียนรู้ของไทยในปี 2553 หรือ ที่เรียกว่า "TLT 2010" ขั้นตอนที่เป็นความคาดหวังสุดท้ายคือ 
ก. การพัฒนานโยบายและการนำร่อง
ข. การพัฒนาเนื้อหาและSoftware
ค. ฝึกอบรมครูด้าน ICT
ง. การบูรณาการเรียนการสอนโดยใช้ ICT
3. Open Source ถูกจัดไว้ในข้อใด 
ก. Hardware
ข. Software
ค. Pepleware
ง. Technic
4. Teleconference เป็นการนำเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารมาใช้เพื่อการใด 
ก. การตัดสินใจ
ข. การบริหารทางไกล
ค. การบริหารสถานศึกษา
ง. การจัดการเรียนรู้
5. SchoolNet เป็นเครือข่ายข้อมูลด้วยระบบสารสนเทศ (Network)ในโรงเรียนมัธยมศึกษาซึ่งเกิดขึ้นตามแนวคิดของใคร 
ก. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ
ข. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ
ค. พลเอกเปรม ติณศุลานนท์
ง. นายปองพล อดิเรกสาร
6. การนำระบบ GIS (Geographic InformationSystems) เข้ามาช่วยในการดูแลการจัดสรรทรัพยากรการจัดการศึกษาเป็นการดำเนินการด้านเทคโนโลยีและการสื่อสารเพื่อการศึกษาเรื่องใด 
ก. การใช้ ICT เพื่อพัฒนาการเรียนรู้
ข. การใช้ ICT เพื่อการบริหารและบริการทางการศึกษา
ค. การผลิตและพัฒนาบุคลากร ICT
ง. การกระจายโครงสร้างพื้นฐาน ICT เพื่อการศึกษา
7. สถานศึกษาควรดำเนินการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารอย่างไร 
ก. นำความรู้เรื่องเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ให้เกิดประโยชน์
ข. ผลิตและสร้างสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศทางการศึกษาใหม่ๆ
ค. ใช้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือในการค้นคว้าหาความรู้
ง. ถูกทุกข้อ
8. LAN เกี่ยวข้องกับเรื่องใดมากที่สุด 
ก. โครงการนำร่อง
ข. สื่อประสม
ค. เครื่อข่าย
ง. เทคนิคจัดการ
9. โรงเรียนวิถีพุทธถูกจัดไว้ในกลุ่มใด 
ก. Innovation
ข. Technology
ค. Information
ง. Information Technology
10. "เธอควรรู้จักเว็บไซต์ E-commerce บ้างซิ"ข้อความนี้น่าจะเป็นประโยชน์ของอินเตอร์เน็ตต่อวงการใด 
ก. วงการศึกษา
ข. วงการธุรกิจ
ค. วงการวิทยาศาสตร์
ง. วงการบันเทิง
11. ลักษณะทิศทางการพัฒนาประเทศในอนาคตเป็นลักษณะเช่นใด 
ก. เศรษฐกิจพอเพียง
ข. เศรษฐกิจเสรี
ค. สังคมสันติภาพ
ง. เศรษฐกิจสังคมฐานความรู้
12. ทำหน้าที่ในการสร้างเอกสารในเชิงบัญชี ที่มีการคำนวณเข้ามาเกี่ยวข้อง 
ก. Microsoft Word
ข. Microsoft Excel
ค. Microsoft PowerPoint
ง. Microsoft Project
13. "ต้องดำเนินการให้อยู่ในรูปแบบที่สามารถเรียกใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ" เป็นการเก็บรวบรวมและจัดเก็บข้อมูลตามข้อใด 
ก. การเก็บข้อมูล
ข. การจัดข้อมูล
ค. การปรับปรุงข้อมูล
ง. การปกป้องข้อมูล
14. เป็นการเรียนทางไกลที่ผู้เรียนสามารถตอบโต้กับ ผู้สอนได้ โดยอาศัยเครือข่ายอินเตอร์เน็ต ซึ่งช่วยให้เรียนรู้ได้โดยไม่มีข้อจำกัดของเวลา ระยะทางและสถานที่โดยผู้เรียนสามารถที่จะเรียนรู้ได้ตลอดเวลา 
ก. E-learning
ข. E-Classroom
ค. E-Book
ง. E-Library
15. เปรียบเทียบได้กับหน้าปกของหนังสือ 
ก. อินเตอร์เน็ต
ข. เว็บไซต์
ค. เว็บเพจ
ง. โฮมเพจ
16. ทำไมต้องนำนวัตกรรมการศึกษามาใช้แทนวิธีการเดิม 
ก. เพื่อได้ประสิทธิผลสูงขึ้น
ข. เพื่อให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ค. เพื่อลดการสอนของครูจะได้ไปทำงานด้านอื่น
ง. วิธีการเดิมไม่เป็นที่ยอมรับ
17. Hardware Software Technic จัดไว้ในกลุ่มใด 
ก. Innovation
ข. Technology
ค. Information
ง. Information Technology
18. กระทรวงศึกษาธิการมีเป้าหมายการนำคอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ตมาใช้กับการศึกษาด้านใด 
ก. การเรียนการสอน
ข. การบริหารจัดการ
ค. การเรียนร้สำหรับชุมชน
ง. ถูกทุกข้อ
19. บทบาทของครูต่อนโยบายด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อการศึกษา 
ก. พัฒนาระบบ
ข. พัฒนาบุคลากร
ค. ผู้ใช้ หรือผู้ผลิต
ง. ประสาน บริการวิชาการชุมชน
20. "ให้พิมพ์ Key Word ลงในช่อง" ข้อความนี้สัมพันธ์กับเว็บไซต์ใดมกที่สุด 
ก. www. Thaimai.com
ข. www.google.co.th
ค. www.siam.net
ง. www.thaischool.ac.th
21. " เป็นความใหม่ซึ่งยังไม่เคยมีมาก่อน" ตรง กับข้อใด 
ก. นวัตกรรม
ข. เทคโนโลยี
ค. ข้อมูลข่าวสาร
ง. เทคโนโลยีสารสนเทศ
22. Internal Service Provider(ISP) เกี่ยวข้องกับข้อใดมากที่สุด 
ก. เครื่อข่ายระหว่างประเทศ
ข. ผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต
ค. การเชื่อมต่อระบบอินเตอร์เน็ต
ง. อุปกรณ์ต่อพ่วง
23. Management Information System(MIS) เป็นข้อมูลสารสนเทศสำหรับบุคคลกลุ่มใด 
ก. ผู้บริหารประเทศ
ข. ผู้บริหารระดับสูงสุดส่วนราชการ
ค. ผู้บริหารระดับกอง แผนก
ง. ผู้ปฏิบัติการ
24. เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารตรงกับ ข้อใด 
ก. IT
ข. ICT
ค. Technology
ง. Innovation
25. ข้อใดคือจดหมายอิเลคทรอนิกส์ 
ก. Internet
ข. Website
ค. E-mail
ง. CAI
26. บุคลากรสารสนเทศทางการศึกษากลุ่มใดควรมีความรู้เข้าใจระบบสารสนเทศปฏิบัติการสำนักงาน Office Information System(OIS) มากที่สุด 
ก. เลขาธิการสพฐ.
ข. ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่
ค. ผู้อำนวยการสถานศึกษา
ง. ครู หรือเจ้าหน้าที่
27. การส่งครูไปอบรมด้านการใช้ ICTที่ต่างประเทศเป็นการดำเนินการด้านเทคโนโลยีและการสื่อสารเพื่อการศึกษาเรื่องใด 
ก. การใช้ ICT เพื่อพัฒนาการเรียนรู้
ข. การใช้ ICT เพื่อการบริหารและบริการทางการศึกษา
ค. การผลิตและพัฒนาบุคลากร ICT
ง. การกระจายโครงสร้างพื้นฐาน ICT เพื่อการศึกษา
28. ไม่ใช่ลักษณะข้อมูลสารสนเทศของสถานศึกษาที่ดี 
ก. มีความหลากหลาย
ข. ถูกต้องแม่นยำ
ค. ตรงตามความต้องการที่จะใช้
ง. เก็บในระยะเวลาเหมาะสม
29. ข้อใดจัดอยู่ในประเภท Technic 
ก. เครื่องคอมพิวเตอร์
ข. ม้วนเทปเสียง
ค. LCD Projector
ง. การสอนบูรณาการ
30. ระบบเครื่อข่ายคอมพิวเตอร์ระยะไกลหมายถึงข้อใด 
ก. LAN
ข. MAN
ค. WAN
ง. INTERNET

http://www.thaitestonline.com


รวมแนวข้อสอบครูผู้ช่วย ความรอบรู้ เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร,ครูผู้ช่วย 2558,ครูผู้ช่วย กทม,ครูผู้ช่วย 58,ครูผู้ช่วยกรณีพิเศษ,ครูผู้ช่วย ภาค ข, วิชาชีพครู,วิชาการศึกษา