วันเสาร์ที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2558

เฉลยรวมแนวข้อสอบบรรจุครูผู้ช่วย ชุด พรบ.การศึกษาแห่งชาติ

1. ข้อใดไม่ถูกต้อง เกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ บิดามารดา ผู้ปกครอง พึงได้รับในการจัดการศึกษา
ก. การสนับสนุนจากรัฐ ให้ความรู้ความสามารถในการอบรมเลี้ยงดู
ข. การยกเว้นเงินภาษีสำหรับค่าใช้จ่ายด้านการศึกษา
ค. เงินอุดหนุนจากรัฐสำหรับการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานของคนในการดูแล
ง. การให้การศึกษาแก่บุตรหรือบุคคลในการดูแล
2. ข้อใดไม่สอดคล้องกับการจัดกระบวนการเรียนรู้ตามความมุ่งหมายของ พรบ.การศึกษาแห่งชาติ
ก. ปลูกฝังจิตสำนึกการเมือง การปกครองระบอบประชาธิปไตยมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
ข. รักษา และส่งเสริมสิทธิ หน้าที่ เสรีภาพเคารพกฎหมาย
ค. รู้จักรักษาผลประโยชน์ ส่วนรวมของประเทศชาติ
ง. กระจายการพัฒนาไปสู่ชนบทโดยการมีส่วนร่วมของภูมิปัญญาท้องถิ่น
3. ตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ รัฐต้องให้ความช่วยเหลือเป็นกี่เท่าของเงินทุนด้านสื่อและวัสดุการศึกษาที่จัดสรรให้แก่เด็กนักเรียนทั่วไปต่อคน
ก. ไม่เกิน 2 เท่า
ข. ไม่เกิน 3 เท่า
ค. ไม่เกิน 4 เท่า
ง. ไม่เกิน 5 เท่า
4. การจัดการศึกษาเพื่อวางรากฐานชีวิตและการเตรียมความพร้อมของเด็กทั้งร่างกายและจิตใจสติปัญญาอารมณ์ บุคลิกภาพและการอยู่ร่วมกันในสังคม
ก. การศึกษาระดับก่อนประถมศึกษา
ข. การศึกษาระดับประถมศึกษา
ค. การศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้น
ง. การศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
5. วัตถุประสงค์ของการจัดทำ พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ
ก. ปรับปรุงการศึกษาให้สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคม
ข. ปฏิรูปการศึกษาของไทย
ค. พัฒนาคนไทยเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ทั้งทางร่างกายจิตใจ
ง. พัฒนาศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
6. พรบ.การศึกษาแห่งชาติ สอดคล้องกับข้อใดมากที่สุด
ก. แผนพัฒนาเศรษฐกิจ สังคมแห่งชาติ
ข. แผนพัฒนาการศึกษาแห่งชาติ
ค. แผนการศึกษาแห่งชาติ
ง. แผนพัฒนาการศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรมของกระทรวงศึกษาธิการ
7. การจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาผู้เรียนตามความถนัดความสนใจ ศักยภาพและความสามารถพิเศษเฉพาะด้าน เพื่อเป็นพื้นฐานสำหรับการศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา
ก. ระดับประถมศึกษา
ข. ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น
ค. ระดับมัธยมศึกษาตอนปลายประเภทสามัญศึกษา
ง. ระดับมัธยมศึกษาตอนปลายประเภทอาชีวศึกษา
8. บุคคลที่มีอำนาจในการออกบัตรประจำตัวพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติการศึกษาภาคบังคับ คือใคร
ก. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
ข. ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
ค. ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
ง. ผู้ว่าราชการจังหวัด
9. ข้อใดไม่สอดคล้องการจัดระบบโครงสร้างและกระบวนการการจัดการศึกษา
ก. กระจายอำนาจสู่สถานศึกษาทั้งหมด
ข. กำหนดมาตรฐานการศึกษา จัดระบบประกันคุณภาพ
ค. มีหลักการส่งเสริมมาตรฐานวิชาชีพครูคณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา
ง. ระดมทรัพยากรจากแหล่งต่าง ๆ มาใช้ในการจัดการศึกษา
10. จุดที่ต่างกันของการศึกษาในระบบ นอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยที่สำคัญคือข้อใด
ก. ระยะเวลาที่จัดการศึกษา
ข. สถานที่จัดการศึกษา
ค. ตัวผู้เข้ารับการศึกษา
ง. จุดหมาย วิธีการ หลักสูตร
11. ข้อใดไม่ใช่หลักการพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542
ก. เป็นการศึกษาขั้นพื้นฐานเพื่อปวงชน
ข. เป็นการศึกษาตลอดชีวิตสำหรับประชาชน
ค. ให้สังคมมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา
ง. พัฒนา สาระ และกระบวนการเรียนรู้ให้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง
12. ข้อใดไม่ถูกต้อง
ก. ให้มีการประเมินคุณภาพภายนอกครั้งแรกใน 5 ปี
ข. สำนักงานรับรองมาตรฐานและประกันคุณภาพการศึกษามีฐานะเป็นองค์กรมหาชน
ค. การประเมินผลคำนึงถึงความมุ่งหมายและหลักการจัดการศึกษา
ง. เสนอผลประเมินต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและสาธารณชน
13. ตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ ไม่ได้กำหนดสิทธิในการรับการศึกษาสำหรับคนพิการในเรื่องใด
ก. สิ่งอำนวยความสะดวก
ข. สื่อ บริการ
ค. ความช่วยเหลืออื่นใด
ง. เงินอุดหนุนปัจจัยพื้นฐาน
14. พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติจัดเป็น
ก. กฎหมายแม่บทการจัดการศึกษา
ข. แนวทางจัดการศึกษาของรัฐ
ค. การปรับปรุงการศึกษาสอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ
ง. การปฏิรูปการศึกษาครั้งใหญ่ของไทย
15. การจัดการศึกษาที่มีความยืดหยุ่น ในหลักสูตรวิธีการ การประเมินผลและจุดมุ่งหมาย
ก. การศึกษาในระบบ
ข. การศึกษานอกระบบ
ค. การศึกษาตามอัธยาศัย
ง. การศึกษาเฉพาะทาง
16. ข้อใดไม่ถูกต้องเกี่ยวกับการศึกษาตามอัธยาศัย
ก. สถานศึกษา ต้องจัดการศึกษา ทั้งในระบบนอกระบบ และตามอัธยาศัย
ข. ผู้เรียนได้เรียนรู้ด้วยตนเองตามความสนใจศักยภาพ ความพร้อม และโอกาส
ค. จัดการเรียนรู้ได้ในทุกที่ ทุกเวลา
ง. ธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมเป็นแหล่งเรียนรู้ได้
17. ใครมีอำนาจอนุญาตผ่อนผันเด็กเข้าเรียนก่อนหรือหลังอายุตามเกณฑ์การศึกษาภาคบังคับ
ก. ผู้อำนวยการสถานศึกษา
ข. ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
ค. ผู้อำนวยการกองการศึกษาเทศบาล
ง. ถูกทุกข้อ
18. การจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานแบ่งได้เป็น 3 ระดับยกเว้นข้อใด
ก. ระดับก่อนประถมศึกษา
ข. ระดับประถมศึกษา
ค. ระดับมัธยมศึกษา
ง. ระดับก่อนอุดมศึกษา
19. การจัดการศึกษาระดับใดเป็นการจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาความรู้และทักษะในการประกอบอาชีพให้เป็นกำลังแรงงานที่มีฝีมือหรือการศึกษาต่อระดับในระดับอาชีพชั้นสูงต่อไป
ก. ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น
ข. ระดับมัธยมศึกษาตอนปลายประเภทสามัญศึกษา
ค. ระดับมัธยมศึกษาตอนปลายประเภทอาชีวศึกษา
ง. ระดับที่ต่ำกว่าปริญญา
20. กรณีที่ต้องถูกระวางโทษปรับมากที่สุดได้แก่กรณีใด
ก. ผู้ปกครองไม่ส่งเด็กเข้าเรียน
ข. กระทำการใดๆ ก็ตามเพื่อมิให้เด็กเข้าเรียน
ค. ไม่แจ้งสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษากรณีที่ไม่ใช่ผู้ปกครองและมีเด็กภาคบังคับอาศัยอยู่ด้วย
ง. ถูกระวางโทษเท่ากันคือ ไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท
21. การจัดการศึกษาเพื่อมุ่งวางรากฐานเพื่อให้ผู้เรียนได้พัฒนาคุณลักษณะที่พึงประสงค์ทั้งด้านคุณธรรมจริยธรรม ด้านความรู้ความสามารถขั้นพื้นฐานหมายถึงการจัดการศึกษาระดับใด
ก. ระดับก่อนประถมศึกษา
ข. ระดับประถมศึกษา
ค. ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น
ง. ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
22. หลักการจัดการศึกษาข้อใด ไม่สอดคล้องกับสาระตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ
ก. ผู้เรียนทุกคนสามารถเรียนรู้พัฒนาตนเองได้
ข. ครูต้องมีจิตสำนึกที่จะพัฒนาเด็กอย่างเต็มความสามารถ
ค. ผู้เรียนมีความสำคัญที่สุด
ง. ต้องส่งเสริมผู้เรียนพัฒนาตามศักยภาพ
23. ต่อไปนี้ ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง
ก. การศึกษาขั้นพื้นฐาน หมายความว่าการศึกษาก่อนระดับอุดมศึกษา
ข. ผู้สอน หมายความว่า ครูและคณาจารย์ในสถานศึกษาระดับต่างๆ
ค. กระทรวง หมายความว่ากระทรวงการศึกษา
ง. ครู หมายความว่าบุคลากรวิชาชีพซึ่งทำหน้าที่หลักทางด้านการเรียนการสอนและส่งเสริมการเรียนรู้ของผู้เรียนด้วยวิธีการต่างๆ ในสถานศึกษาทั้งของรัฐและเอกชน
24. การนับอายุเด็กเพื่อเข้ารับการศึกษาภาคบังคับในสถานศึกษาขั้นพื้นฐานให้นับตามข้อใด
ก. ครบเจ็ดปีในปีใดนับเด็กอายุย่างเข้าปีที่เจ็ดในปีนั้น
ข. นับตามปีงบประมาณ
ค. นับตามปีปฏิทิน
ง. ข้อ ก และ ค ถูกต้อง
25. ต่อไปนี้ ข้อใดไม่สอดคล้องคำว่าการศึกษา
ก. การถ่ายทอดความรู้
ข. การฝึกอบรม
ค. การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์
ง. การสืบสานทางวัฒนธรรม
26. การจัดระบบโครงสร้างและกระบวนการจัดการศึกษาให้ยึดหลักอะไรบ้าง
ก. มีเอกภาพด้านนโยบายหลากหลายในการปฏิบัติ
ข. มีการกระจายอำนาจไปสู่เขตพื้นที่การศึกษาและสถานศึกษา
ค. ระดมทรัพยากรจากแหล่งต่างๆ มาใช้ในการจัดการศึกษา
ง. ถูกทุกข้อ
27. หากเด็กจะเข้าเรียนการศึกษาภาคบังคับในปีการศึกษา 2551 จะต้องเป็นเด็กที่เกิดในปี พ.ศ.ใด
ก. 2541
ข. 2542
ค. 2543
ง. 2544
28. ข้อใดให้ความหมายไม่ตรงกับ พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ
ก. การศึกษาขั้นพื้นฐาน คือการศึกษาก่อนระดับอุดมศึกษา
ข. สถานศึกษา คือสถานที่จัดการสอนตั้งแต่ก่อนประถม ถึงระดับก่อนอุดมศึกษา
ค. มาตรฐานการศึกษา เป็นข้อกำหนดเกี่ยวกับคุณลักษณะ คุณภาพที่พึงประสงค์ และมาตรฐานที่ต้องการให้เกิดในสถานศึกษาทุกแห่ง
ง. กระทรวง หมายความว่ากระทรวงศึกษาธิการ
29. ต่อไปนี้ ข้อใดไม่ใช่ สถานศึกษาสำหรับปฐมวัยและการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ก. โรงเรียน
ข. ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก
ค. ศูนย์พัฒนาชุมชน
ง. ศูนย์พัฒนาเด็กก่อนเกณฑ์ สถาบันศาสนา
30. พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ ไม่ได้กำหนดให้หน่วยงานใดมีสิทธิจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ก. หน่วยงานหรือสถานศึกษาของรัฐและเอกชน
ข. มหาวิทยาลัยของรัฐและเอกชน
ค. องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ง. องค์กรวิชาชีพ สถาบันศาสนา และสถานประกอบการ
31. อายุสำหรับเด็กการศึกษาภาคบังคับ
ก. ย่างเข้าปีที่ 6 - ย่างเข้าปีที่ 16
ข. ย่างเข้าปีที่ 7 - ย่างเข้าปีที่ 16
ค. ย่างเข้าปีที่ 6 - ย่างเข้าปีที่ 17
ง. ย่างเข้าปีที่ 7 - ย่างเข้าปีที่ 17
32. คำว่า “เอกภาพด้านนโยบาย หลากหลายในการปฏิบัติ” สอดคล้องกับข้อใด
ก. ส่วนกลางกำหนดนโยบาย ส่วนภูมิภาคกำหนดแนวทางปฏิบัติ
ข. กระทรวงกำหนดนโยบายมาตรฐานสนับสนุนเขตพื้นที่และสถานศึกษาบริหารจัดการด้วยตนเอง
ค. มีนโยบายเดียวกัน การปฏิบัติหลากหลายวิธี
ง. ถูกทุกข้อ
33. ข้อใดไม่ใช่หลักการจัดการศึกษาตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542
ก. เป็นการศึกษาตลอดชีวิตสำหรับประชาชน
ข. ให้สังคมมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา
ค. การพัฒนาสาระและกระบวนการเรียนรู้ให้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง
ง. การจัดการศึกษาสำหรับบุคคลซึ่งมีความบกพร่องทางร่างกาย จิตใจ สติปัญญาอารมณ์ และสังคม
34. การจัดการศึกษาระดับประถมศึกษาโดยปกติใช้เวลาเรียนกี่ปี
ก. 4 ปี
ข. 6 ปี
ค. 9 ปี
ง. 12 ปี
35. บุคคลใดต่อไปนี้ มิใช่พนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติการศึกษาภาคบังคับ
ก. ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
ข. ปลัดอำเภอในกรณีที่ท้องที่นั้นมีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดการศึกษา
ค. ผู้บริหารสถานศึกษา
ง. กำนันผู้ใหญ่บ้าน
36. องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีสิทธิ์จัดการศึกษาระดับใด
ก. การศึกษาขั้นพื้นฐาน
ข. การศึกษาอุดมศึกษา
ค. การศึกษานอกโรงเรียน
ง. ทุกระดับ
37. ข้อใดไม่ถูกต้องในด้านการกระจายอำนาจให้เขตพื้นที่และสถานศึกษา
ก. ด้านวิชาการ
ข. งบประมาณ
ค. หลักสูตรการสอน
ง. การบริหารทั่วไป
38. ต่อไปนี้ ข้อใดไม่กล่าวถึงสิทธิในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ก. บุคคล
ข. เอกชน
ค. องค์กรปกครองท้องถิ่น
ง. ครู อาจารย์
39. หากผู้บริหารในฐานะที่เป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติการศึกษาภาคบังคับ จะทำบัตรประจำตัวพนักงานเจ้าหน้าที่ให้ยื่นทำบัตรต่อใคร
ก. ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
ข. ผู้บริหารสถานศึกษาออกเอง
ค. เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ง. ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
40. พรบ.การศึกษาแห่งชาติ เป็นไปตามบทบัญญัติใน รัฐธรรมนูญพ.ศ. 2540 มาตราใด
ก. 29
ข. 40
ค. 50
ง. 81
41. ความมุ่งหมายของการจัดการศึกษาตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ
ก. ปรับปรุงการศึกษาให้สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคม
ข. ปฏิรูปการศึกษาของไทย
ค. พัฒนาคนให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ทั้งร่างกายจิตใจ
ง. พัฒนาศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
42. พรบ.การศึกษาแห่งชาติ ฉบับแรก มีผลบังคับใช้ตั้งแต่เมื่อใด
ก. 19-ส.ค.-42
ข. 20-ส.ค.-42
ค. 19-ธ.ค.-45
ง. 20-ธ.ค.-45
43. บุคคลที่มีหน้าที่เข้าไปตรวจสอบการเข้าเรียนของเด็กการศึกษาภาคบังคับในสถานที่ใดๆ
ก. ผู้อำนวยการสถานศึกษา
ข. ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
ค. พนักงานเจ้าหน้าที่
ง. ทั้งข้อ ก ข และ ค
44. เด็กจบการศึกษาภาคบังคับในสถานศึกษาสังกัดสพท. หมายถึงเด็กจบชั้นใด
ก. ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
ข. ชั้นประถมศึกษาปีที่ 9
ค. ชั้นปีที่ 9
ง. ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
45. หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับระบบประกันคุณภาพภายในได้แก่
ก. สถานศึกษาเท่านั้น
ข. สถานศึกษาและเขตพื้นที่
ค. สถานศึกษา เขตพื้นที่ คณะกรรมการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ง. สถานศึกษา เขตพื้นที่ คณะกรรมการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ
46. ตำแหน่งข้าราชการครูตามข้อใดที่สังกัดต่างหน่วยงาน
ก. ครู
ข. คณาจารย์
ค. ผู้บริหารสถานศึกษา
ง. ผู้บริหารการศึกษา
47. ผู้ที่ไม่ใช่ผู้ปกครองที่มีเด็กอายุในเกณฑ์การศึกษาภาคบังคับอาศัยอยู่ด้วย ต้องแจ้งต่อสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาภายในกี่วัน นับจากวันที่มีเด็กอาศัยอยู่ด้วย
ก. 15 วัน
ข. 30 วัน
ค. 45 วัน
ง. 60 วัน
48. ต่อไปนี้ข้อใดไม่ใช่องค์ประกอบของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน
ก. ผู้แทนครู
ข. ผู้แทนองค์กรเอกชน
ค. ผู้แทนศิษย์เก่า
ง. ผู้แทนคุณวุฒิ
49. ข้อใดสำคัญที่สุดเกี่ยวกับหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ก. พัฒนาคุณภาพชีวิตบุคคลให้เหมาะสมกับวัยตามศักยภาพ
ข. สอดคล้องความต้องการชุมชน
ค. คำนึงถึงภูมิปัญญาท้องถิ่น
ง. เหมาะสมกับความก้าวหน้าด้านวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี
50. บุคคลที่มีหน้าที่เข้าไปตรวจสอบการเข้าเรียนของเด็กนักเรียน ต้องดำเนินการอย่างไร
ก. เข้าไปตรวจสอบระหว่างเวลาพระอาทิตย์ขึ้นจนถึงพระอาทิตย์ตก
ข. ต้องแสดงบัตรประจำตัวแก่บุคคลที่เกี่ยวข้อง
ค. จัดให้มีการบันทึกข้อมูลหรือบันทึกอนุญาตการตรวจสอบ
ง. ถูกทุกข้อ

ไม่มีความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น